ฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก ฟาดแข้งกันไปจนจะแตะหลักยี่สิบนัดแล้ว มองกันตอนนี้ ต้องบอกว่าปีนี้การแข่งขันมีระดับความเข้มข้นยิ่งกว่าฤดูกาลที่ผ่านมาเป็นไหนๆ
สีสันอย่าง ฮัลล์ ซิตี้ และ ทีมอนาคตไกล และแข็งแกร่งที่ฝากผีฝากไข้ได้อย่าง แอสตัน วิลล่า และ เอฟเวอร์ตัน ควงแขนกันเก็บแต้มได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ ในขณะที่ทีมเล็กๆ อย่าง ฟูแล่ม, สโต๊ค ซิตี้, โบลตัน และ วีแกน ก็ไม่ใช่สมันน้อยๆ ที่จะมาแจกแต้มให้ใครง่ายๆ อีกแล้ว นี่เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่า พรีเมียร์ ลีก กำลังยกระดับขึ้นไปอีกหนึ่งขั้น
ด้วยความยากและหนักของเกมส์ที่มากขึ้น ทำให้ทีมที่กำลังมีการเปลี่ยนแปลงอย่าง แมนฯ ซิตี้, เวสต์ แฮม ยูไนเต็ด, แบล๊คเบิร์น และ ซันเดอร์แลนด์ ต้องพบกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก
แต่อย่างไรก็ดี ฤดูกาลยังไม่จบสิ้น ยังมีอีกหลายเกมส์ให้ชิงชัยเก็บแต้มกัน และผู้เขียนเชื่อว่าพรีเมียร์ ลีก ปีนี้ จะมีการไล่ล่าตำแหน่งแชมป์เปี้ยนที่น่าตื่นตาตื่นใจมากกว่าครั้งไหนๆ อย่างแน่นอน
กลับมาหัวเรื่อง ก่อนอื่น ต้องขอแสดงความยินดีกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กับรางวัล บัลลง ดอร์ ลูกฟุตบอลทองคำ คนล่าสุด
ถือว่าเหมาะสมทุกประการ เพราะหลังจบจากซีซั่นที่แล้วในสภาพสำลักความสำเร็จ เขาทำให้ตัวเลข 42 เป็นตัวเลขที่มีการพูดถึงมากที่สุดในช่วงหลายๆเดือนที่ผ่านมานับจากนั้น
นอกจากจำนวน 42 ประตูในซีซั่นเดียวกับตำแหน่งปีกแล้ว โทรฟี่แชมป์พรีเมียร์ ลีก และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แทบจะเป็นใบเบิกทาง การันตีรางวัลกันให้เห็นๆ
แม้จะมีแคนดิเอตที่น่ากลัวอย่าง เฟอนานโด ตอร์เรส ที่มากับโทรฟี่ยูโร 2008 หรือ ลิโอเนล เมสซี่ กับความสำเร็จในโอลิมปิก แต่เมื่อเทียบกันแล้ว “โด้จิ๋ว” มีผลงานโดยรวมที่ดีกว่าพอสมควร
ผู้เขียนไม่แปลกใจเท่าไหร่ กับการประกาศ “ขอเบิ้ล” ของเจ้าของตำแหน่งนักเตะที่ดีที่สุดในโลกคนล่าสุด เพราะนักเตะอย่างโรนัลโด้ ยังมีความทะเยอะทะยานและความสามารถที่จะเจิดจรัสได้อีกเยอะ
23 ขวบปี ยังไม่ใช่เวลาที่จะต้องมานั่งเซ็นสัญญาสุดท้ายของชีวิตนักฟุตบอล ยังมีอีกหลายฤดูกาลที่เขาจะไขว่คว้าความสำเร็จ เกียรติยศส่วนตัว ถ้าไม่เกิดนอกลู่นอกทางไปเสียก่อน
แต่ขอบอกว่าเส้นทาง “ขอเบิ้ล” มันไม่ง่ายเลย จากที่โดนจับตามองจากฝั่งตรงข้ามอยู่แล้ว ก็จะโดนมากกว่าเดิม โดนเตะมากกว่าเดิม ซึ่ง “พาทริค เอฟร่า” เพื่อนร่วมทีมก็เตือนไว้ก่อนแล้วเหมือนกัน
แต่หลายครั้งหลายครา เราจะเห็นได้ว่า โรนัลโด้กับความกดดันนั้นเปรียบเสมือนเงาติดตามตัวไปเสียแล้ว และผู้เขียนยังเชื่ออีกว่า ด้วยระดับความ “จิต” และทะเยอะทะยานอย่างไม่หยุดยั้งของโรนัลโด้ จะไม่ทำให้ความกดดันแค่นี้มาเป็นอุปสรรค
เขาไม่จำเป็นต้องยิงถึง 42 ประตู หรือโชว์ลูกหวือหวาให้แฟนบอลครางฮือในทุกๆ บ่ายวันเสาร์
เพียงแค่ช่วยให้ยูไนเต็ดถีบตัวจากสถานการณ์ “ปืนฝืด” ในช่วงนี้ และถีบตัวขึ้นไปกดดันเชลซี และลิเวอร์พูลได้ จวบจนแซงจนคว้าแชมป์ลีก รวมถึงคว้าโทรฟี่ใบเขื่องอีกครั้งที่โรม
แล้วเดี๋ยวปีหน้า..เราจะได้เห็นเขายืนฉีกยิ้มยืนรับรางวัลอีกหนอย่างแน่นอน
ก็เห็นว่าชอบ “เบิ้ล” นักนี่นา ยิงสองประตูต่อเกมให้ยูไนเต็ดมาก็เยอะ รวมถึงดับเบิ้ลแชมป์เมื่อปีที่แล้ว
กับบัลลง ดอร์ จะเบิ้ลอีกที..จะเป็นไรไป
Putt_Hub^^
2001-2024 RED ARMY FANCLUB Official Manchester United Supporters Club of Thailand. #ThaiMUSC